INSURANCE

เอไอเอ ประเทศไทย จับมือ เมย์แบงก์ เปิดประตูการลงทุนใหม่จากรุ่นสู่รุ่น       

เอไอเอ ประเทศไทย จับมือ เมย์แบงก์  เปิดประตูการลงทุนใหม่จากรุ่นสู่รุ่น          “ส่งต่อความมั่งคั่งแบบยั่งยืนสู่คนรุ่นหลัง” ด้วยแบบประกันชีวิตควบการลงทุน หรือ ยูนิต ลิงค์

นักลงทุนที่มีสินทรัพย์ทางการเงินที่สั่งสมมาอย่างยาวนานมักมีความกังวลใจว่า หากต้องถ่ายโอนความมั่งคั่งไปสู่ทายาทรุ่นต่อไป พวกเขาควรวางแผนการเงินและมีแนวทางการลงทุนอย่างไรให้เหมาะสมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ และมีแนวทางการลงทุนแบบใดที่สามารถส่งต่อความมั่งคั่งสู่คนรุ่นหลังได้

คำถามนี้จุดประกายให้เมย์แบงก์ และ เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมกันจัดเอ็กซ์คลูซีฟทอล์ก “แผนการลงทุนระดับโลกเพื่อส่งต่อความมั่งคั่งแบบยั่งยืนสู่คนรุ่นหลัง” โดยเชิญลูกค้าคนสำคัญร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับ Family Wealth Planning ครั้งแรกในรูปแบบการส่งต่อความมั่งคั่งให้กับคนรุ่นหลัง หรือ Intergeneration Planning  ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์การลงทุนแบบครบวงจร นั่นคือ สร้าง ปกป้อง และส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่นไม่รู้จบ

ทุกวันนี้นักลงทุนเริ่มเล็งเห็นผลประโยชน์จากการลงทุนที่สามารถเพิ่มมูลค่าต่อเนื่องและมั่นคง ร่วมกับการถ่ายทอดความมั่งคั่งและสินทรัพย์ไปสู่รุ่นถัดไปได้ จึงทำให้รูปแบบการบริหารจัดการสินทรัพย์ Family Wealth Planning ได้รับการพัฒนาต่อยอดให้สามารถสร้างโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน ให้ผลประโยชน์ที่มั่นคงยาวนาน

และส่งต่อความมั่งคั่งให้กับคนรุ่นหลังได้ โดยเมย์แบงก์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมั่นใจว่าการลงทุนภายใต้รูปแบบประกันยูนิต ลิงค์ ของ เอไอเอ จะตอบโจทย์ลูกค้าและสร้างผลตอบแทนให้ลูกค้าได้ตามที่วางแผนไว้

 AIA Infinite Wealth Prestige (Unit Linked) เป็นตัวอย่างของนวัตกรรมการส่งต่อความมั่งคั่งให้ลูกหลานและวางแผนชีวิตวัยเกษียณที่น่าจับตามองในขณะนี้ ซึ่งเป็นแบบประกันยูนิต ลิงค์ ที่มีการลงทุนในกองทุนที่ผสมผสานกลยุทธ์การลงทุนระหว่างกองทุนรวมตราสารหนี้และตราสารทุนของเอไอเอ ที่เน้นลงทุนในต่างประเทศ ที่สามารถเลือกได้ตามระดับความเสี่ยง ได้แก่

  • AIA Global Conventional Allocation Fund
  • AIA Global Moderate Allocation Fund
  • AIA Global Aggressive Allocation Fund

ภาณุพันธ์ เอกชูเกียรติ ที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายขาย และประธาน High Net Worth Club เอไอเอ ประเทศไทย ปี 2020-2022 กล่าวว่า ปัจจุบันนักลงทุนให้ความสนใจรูปแบบการลงทุนที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด ทั้งด้านการลงทุนและความคุ้มครองชีวิต และต้องเป็นเครื่องมือทางการเงินที่จะส่งต่อความมั่งคั่งได้ นั่นทำให้แบบประกันยูนิต ลิงค์ อย่าง AIA Infinite Wealth Prestige (Unit Linked)

นับเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยส่งต่อสินทรัพย์ไปพร้อมกับองค์ความรู้ทางด้านการเงินและการลงทุนให้กับคนรุ่นหลัง ทั้งยังตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการจัดสรรสินทรัพย์ให้ทายาท กรมธรรม์นี้ยังถือเป็นการส่งต่อสินทรัพย์ที่ทำให้เกิดความมั่นคงในครอบครัว และเสริมความมั่งคั่งต่อไป

ทั้งนี้ การลงทุนเพื่อความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนด้วยแบบประกัน AIA Infinite Wealth Prestige (Unit Linked) ยังโดดเด่นด้วยการดำเนินงานผ่านแพลตฟอร์มการลงทุนระดับโลก บริหารการลงทุนโดยบลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) และกลุ่มการลงทุนของเอไอเอ

อีกทั้งยัง ร่วมมือกับพันธมิตร ผู้จัดการกองทุนระดับโลก อาทิ Ballie Gifford, Blackrock, Capital Group และ Wellington ซึ่งมีกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับแนวทางในการส่งมอบความมั่งคั่งในระยะยาว เข้ามาเป็นผู้ช่วยดูแลความมั่งคั่งให้กับลูกค้า เพื่อก้าวสู่การลงทุนระดับสากล และบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่วางไว้

อารภัฏ สังขรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เผยว่า “การที่องค์กรระดับโลกอย่าง เอไอเอ เลือกพาร์ทเนอร์ที่มีประสบการณ์มาช่วยเติมเต็มพอร์ตของลูกค้าให้ครบวงจร จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นด้วยการเข้าถึงการลงทุนระดับโลก

ซึ่งการเลือกลงทุนในกองทุน AIA Global Allocation Funds ที่บริหารพอร์ตการลงทุนโดยกลุ่มการลงทุนของเอไอเอ และยังเสริมด้วยกองทุนของเอไอเอที่บริหารโดยพันธมิตรของเอไอเอ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนระดับโลกยังสะท้อนถึงบทบาทการเป็นผู้นำด้านการลงทุนครบวงจรของเมย์แบงก์ ที่มีบริการด้านการลงทุนรอบด้านแบบ 360 องศา ให้ลูกค้าสามารถต่อยอดการลงทุน และมีพอร์ตที่มั่นคงแข็งแกร่งได้เป็นอย่างดีอีกด้วย”

อภิญญา องค์คุณารักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายงาน Investment Management บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “นอกจากการใช้ประสบการณ์ของเมย์แบงก์ในการบริหารกองทุนให้กับลูกค้า โดยเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย กระจายความเสี่ยง

จัดพอร์ตอย่างเหมาะสมกับสไตล์ลูกค้าแล้ว เมย์แบงก์ ยังให้คำแนะนำถึงกลยุทธ์การวางแผนการลงทุนระยะยาวสำหรับนักลงทุนและครอบครัวเพื่อความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องประกอบด้วยหลักคิด 3 ข้อเสมอ นั่นคือ

  1. นักลงทุนจำเป็นต้องรู้เป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการลงทุนเพื่อตัวเองด้วยการวางแผนในวัยเกษียณ หรือ ต้องการส่งต่อเป็น ความมั่งคั่งให้กับคนรุ่นหลัง
  2. เลือกรูปแบบการลงทุนตามความเสี่ยงที่รับได้  และ ที่สำคัญ
  3. ต้องอยู่ในตลาดทุนเป็นเวลานาน โดยเน้นที่การทยอยลงทุน จึงจะเป็นโอกาสที่ทำให้ไปถึงเป้าหมายได้สำเร็จ”

นับว่ากิจกรรมสุดพิเศษที่จัดขึ้นเพื่อลูกค้าคนสำคัญในครั้งนี้ นอกจากจะเปิดโอกาสให้ลูกค้าทำความรู้จักกับการลงทุนเพื่อส่งต่อความมั่งคั่งให้กับคนรุ่นหลังแล้ว ยังเป็นการส่งต่อแนวคิดใหม่ให้กับนักลงทุนที่กำลังวางแผนการเงินให้เหมาะสมกับรูปแบบชีวิต ถือเป็นการช่วยจุดประกายความคิดการลงทุนที่จะได้ประโยชน์แบบสองเด้ง นั่นคือ ลงทุนเพื่อตนเองและคนรักที่อยู่ข้างหลังไปพร้อม ๆ กัน

ใส่ความเห็น