ENERGY

กบน.มีมติปรับราคาดีเซลลิตรละ 1 บาท/ พร้อมลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ กลุ่มโซฮอล 91, 95, E20

ยักษ์ลงทุน – คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ปรับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นลิตรละ 1 บาทต่ออีกสัปดาห์ เป็นราคาลิตรละ 34 บาท เพราะสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถดูแลราคาขายปลีกดีเซลในประเทศไม่ให้สูงเกินไป พร้อมทั้งหนุนให้ราคาขายปลีกในกลุ่มแก๊สโซฮอลลดลง โดยมีมติลดการจัดเก็บอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทแก๊สโซฮอล 91, 95 และ E20 โดยปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันติดลบมากกว่า 8.6 หมื่นล้านบาท

วันนี้ (6 มิ.ย.2565) นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้ปรับขึ้นราคาน้ำดีเซลลิตรละ 1 บาท เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกยังคงมีความผันผวน ราคาน้ำมันดีเซล (Gas Oil) อยู่ที่ 158.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล (2 มิ.ย. 2565) เพิ่มขึ้นจากเดิมสัปดาห์ก่อนราคา 149.49 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล (27 พ.ค. 2565) ราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการออกมาตราการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปที่ตกลงจะห้ามการนำเข้าน้ำมันจากรัสเชีย การเปิดประเทศของจีน ตลอดจนปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ลดลงกว่า 1.2 ล้านบาร์เรล การปรับราคาดังกล่าวเป็นการทยอยปรับขึ้นเพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนมากนัก ส่งผลให้ราคาขายปลีกดีเซลปรับจากลิตรละ 32.94 บาท เป็นลิตรละ 33.94 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ กบน. ยังได้ปรับลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทแก๊สโซฮอล 91 และแก๊สโซฮอล 95 ลงลิตรละ 0.93 บาท (เดิมจัดเก็บลิตรละ 1.02 บาท เหลือ 0.09 บาท) และ E20 ลดลงลิตรละ 0.94 บาท (เดิมจัดเก็บลิตรละ 0.12 บาทปรับเป็นให้การชดเชย 0.82 บาท) ทั้งนี้เพื่อให้ราคาขายปลีกลดลง

สำหรับมาตรการช่วยเหลือด้านราคาน้ำมันดีเซล มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 เกี่ยวกับมาตรการลดค่าครองชีพประชาชน โดยรัฐจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่ง ซึ่ง กบน. ได้พิจารณาปรับราคาน้ำมันดีเซลครั้งแรกมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา โดยปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อลิตร และจะทยอยปรับขึ้นลงตามสถานการณ์เป็นรายสัปดาห์ โดยสัปดาห์ที่แล้ว (30 พ.ค.) ได้ปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้งเป็น 33 บาทต่อลิตร รวมทั้งภาครัฐยังมีมาตรการด้านภาษี โดยขยายการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลรอบที่ 2 ปรับลดอัตราภาษีลง 5 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม ถึง 20 กรกฎาคม 2565 ทั้งนี้ อัตราภาษีที่ลดลง 5 บาทต่อลิตร คิดเป็นฐานภาษีที่ลดจริงสำหรับดีเซล B5 อยู่ที่ 4.65 บาทต่อลิตร และการลดภาษีนี้ไม่ได้ลดราคาหน้าสถานีน้ำมันทันที เพราะต้องนำมาช่วยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงพยุงราคาดีเซลให้อยู่ในราคาที่เหมาะสมได้ยาวนานยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 5 มิถุนายน 2565 ติดลบ 86,028 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 50,147 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 35,881 ล้านบาท

ใส่ความเห็น