NEWS

DEXON พร้อมลงสนามเทรดวันแรก 31 มี.ค.นี้ มั่นใจเต็มขั้น นักลงทุนตอบรับสนั่น!

DEXON พร้อม ลงสนาม เทรดวันแรก 31 มี.ค.นี้ มั่นใจเต็มขั้น นักลงทุนตอบรับสนั่น! ย้ำเป็นหุ้นน้ำดี โอกาสเติบโตสูง 

นางมัลลิกา แก่กล้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ DEXON เปิดเผยว่า บริษัทฯมีความพร้อมในทุกด้านสำหรับการนำ DEXON เข้าจดทะเบียน และซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)

โดยจะเข้าทำการซื้อขายวันแรกในวันที่ 31 มีนาคม 2566 โดยกำหนดราคาเสนอขายที่หุ้นละ 4.50 บาท ซึ่งจากกระบวนการต่าง ๆ ที่ผ่านมาบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น การเดินทางไปให้ข้อมูลกับนักลงทุน หรือโรดโชว์

รวมถึงในขั้นตอนของการจองซื้อหุ้น IPO ที่นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้น IPO ครบทั้งจำนวน 123.18 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง และโอกาสในการเติบโตในอนาคต โดยบริษัทฯก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ (ทวีปยุโรป) รวมถึงสหรัฐอเมริกา โดยเน้นให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรมระบบท่อด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง (Smart Pigging Technology) ที่มีคู่แข่งในตลาดน้อยราย โดยเฉพาะการตรวจสอบรอยแตกขนาดเล็กในระบบท่อส่ง ที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษที่มีเทคโนโลยีสูงที่บริษัทพัฒนาขึ้น (Hawk Pipeline Crack Detection and Measurement System),

นอกจากนี้จะลงทุนในงานวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า และการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม, ชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน รวมถึงเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท และสร้างโอกาสในการแข่งขันให้กับบริษัท

“เรามีความเชื่อมั่นในพื้นฐานของธุรกิจ และโอกาสที่เปิดกว้างในการเติบโตในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ทำงานร่วมกับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็น ที่ปรึกษาทางการเงิน ผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย และผู้ร่วมจัดจำหน่าย เพื่อที่จะนำเสนอข้อมูล และพื้นฐานธุรกิจให้กับนักลงทุน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาโดยตลอด ทำให้เรามีความเชื่อมั่นว่า DEXON จะเป็น IPO น้องใหม่ที่จะได้รับการต้อนรับ และการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง” นางมัลลิกา กล่าว

สำหรับผลประกอบการของ DEXON ในปี 2563-2565 บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย และบริการ 438.97 ล้านบาท 433.46 ล้านบาท และ 608.51 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 11.04 ล้านบาท 18.15 ล้านบาท 105.15 ล้านบาท ตามลำดับ  

ซึ่งรายได้ในปี 2565 เพิ่มขึ้น 175.04 ล้านบาท เติบโต 40.38% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564 และมีกำไรสุทธิในปี 2565 เพิ่มขึ้น 87 ล้านบาท เติบโต 479.33% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564 เนื่องจากลูกค้าต่างประเทศเป็นหลักตามสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่อนคลายและบริษัทสามารถเดินทางไปให้บริการในต่างประเทศได้มากขึ้น 

ใส่ความเห็น