FUND NEWS

บลจ.ยูโอบี ออกบทวิเคราะห์ พร้อมประเมินแนวโน้มการลงทุน

บลจ.ยูโอบี ออกบทวิเคราะห์ พร้อมประเมินแนวโน้ม การลงทุน แนะนำลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพในระดับ Investment Grade ขึ้นไป

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐยังคงผันผวน โดยปรับตัวลดลงเล็กน้อย ซึ่งในช่วงแรกได้รับปัจจัยกดดันจากผลการประชุม FOMC โดยแม้ว่า Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 bps และส่งสัญญาณการหยุด ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด แต่อย่างไรก็ดี Fed ยังคงมองว่ามีความจำเป็นที่จะคงดอกเบี้ยที่ระดับสูง ตลอดปี 2023 ซึ่งผิดไปจากที่ตลาดคาดหวังว่า Fed จะสามารถลดดอกเบี้ยได้ 50-75 bps ในช่วงครึ่งปีหลัง

รวมถึงประเด็นเสถียรภาพของ Regional Bank ในสหรัฐที่กลับเข้ามาสร้างความกังวลอีกครั้ง ทำให้ตลาดปรับตัวลงแรง อย่างไรก็ดีตัวเลขภาคการจ้างงานที่ประกาศในช่วงท้ายสัปดาห์อย่าง Nonfarm Payrolls ที่มากกว่าคาด ทำให้ตลาดปรับตัว Rebound ขึ้นมาได้

ทั้งนี้เรามองว่า แม้ว่า Fed จะไม่ได้พูดอย่างชัดเจนว่าจะหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่นัยในการสื่อสารจากการตัดคำพูดที่ใช้สื่อสารมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา อย่างเช่น “some additional policy firming may be appropriate” ออกจากถ้อยแถลงเป็นการส่งสัญญาณหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ย

อย่างไรก็ดียังเปิดโอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เช่นกัน แต่จะเป็นไปตามความเหมาะสมของตัวเลข เศรษฐกิจที่เกิดขึ้น (Data-Dependent) นอกจากนี้สำหรับช่วงเวลาในการลดอัตราดอกเบี้ย เราให้น้ำหนักกับ Fed ที่มองว่าอัตราเงินเฟ้อ แม้ว่าจะชะลอตัวลงแล้วแต่ยังห่างไกลจากเป้าหมาย และน่าจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยได้เป็นในช่วงต้นปีหน้ามากกว่า

ซึ่งในช่วงสั้น อาจจะทำให้ตลาดผิดหวัง แต่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อ ลดลงอย่างมีเสถียรภาพในระยะกลางยาว ทั้งนี้การลดอัตราดอกเบี้ยอาจจะเกิดได้เร็วขึ้นหากเกิดเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรง หรือ ปัญหาในภาคธนาคารลุกลามมากกว่าที่คาด

สำหรับความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยนั้น เราอยากให้จับตาดูภาคการจ้างงานที่แม้ว่ายังคงแข็งแกร่ง แต่ตัวเลขบางส่วนเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง อย่างเช่น Job Openings ที่ลดลง รวมถึง Initial Jobless Claims ที่เร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง

และที่สำคัญผลกระทบจาก Credit Conditions ที่เข้มงวดมาก ขึ้นที่จะส่งผ่านไปยังภาคธุรกิจที่จะต้องเผชิญกับต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น รวมถึงภาคการบริโภคที่จะเข้าถึงสินเชื่อได้ยากขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะทำให้เศรษฐกิจมีโอกาสถดถอยได้ในระยะข้างหน้า

อย่างไรก็ดี เรายังคงมองเศรษฐกิจถดถอยที่จะเกิดขึ้นเป็นแบบไม่รุนแรง (Mild Recession) เป็นกรณีพื้นฐาน โดยในสัปดาห์นี้ให้จับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญอย่าง US Inflation, US Consumer Sentiment รวมถึงการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนประจำไตรมาสที่ 1/2023 ที่เข้าสู่โค้งสุดท้าย

โดยอาศัยจังหวะตลาดผันผวนทยอยสะสม (Buy On Dip) ในหุ้นที่มีความสามารถในการสร้างกำไรที่สม่ำเสมอ และมีพื้นฐานรองรับการเติบโตที่ชัดเจนสามารถเติบโตเป็น Secular Trend ได้อย่าง (EV, ESG, Clean Energy) รวมถึงหุ้นกลุ่ม Big Tech ที่มี Earnings Visibility ที่ดี

ในขณะเดียวกัน การลงทุน ใน ตราสารหนี้ ก็ยังคงเป็นคำแนะนำหลักของเรา ด้วยระดับของ Yield ที่อยู่ในระดับที่น่าสนใจ รวมถึง โอกาสในการได้รับ Capital Gain จากแนวโน้มการดำเนินนโยบายทางการเงินที่ใกล้ถึงจุดเปลี่ยนและเข้มงวดน้อยลง

โดยเราแนะนำ การลงทุน ใน ตราสารหนี้ที่มีคุณภาพในระดับ Investment Grade ขึ้นไป เพื่อลดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ทั้งนี้ในระยะข้างหน้าควรเริ่มพิจารณาลงทุนเพื่อ Seek for Yield ในตราสารหนี้ที่มี Duration หรือเน้นไปที่ Credit มากขึ้น

ใส่ความเห็น