NEWS

วายแอลจี เผยทองคำย่อตัว เหตุกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย มี.ค. 0.5%

วายแอลจี เผยทองคำย่อตัวหลังนักลงทุนกังวลผลประชุมเฟดเดือน มี.ค. อัตรา ดอกเบี้ย นโยบายอาจปรับขึ้น 0.5% มากกว่าที่เคยคาด หลังเงินเฟ้อพุ่งไม่แผ่ว ส่งผลทองแกว่งตัวลงระยะสั้น

•ขณะเดียวกันทองคำในประเทศทรงตัวเหนือ 29,500 บาทต่อบาททองคำ ต่อเนื่องและมีลุ้นปรับตัวขึ้น เหตุได้อานิสงส์เงินบาทอ่อน ระยะสั้นมีลุ้นทองคำในประเทศแตะกรอบ 30,500 –30,850 บาทต่อบาททองคำ แต่แนะนำทยอยขายทำกำไรเพราะราคาทองโลกยังปรับฐาน 

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ( YLG ) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ราคาทองคำในตลาดโลกช่วงนี้เริ่มมีสัญญาณปรับตัวลดลง ซึ่งมาจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ช่วงเดือน มีนาคม 2565

ที่เริ่มให้น้ำหนักว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย 0.50% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นเพียง 0.25% ส่งผลให้มีความกังวลว่าปีนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจจะปรับขึ้นไปถึงระดับ 5.5 – 5.75% เพิ่มจากอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันถึง 1%

และในกรณีที่อัตราเงินเฟ้อยังเร่งตัวต่อเนื่อง ก็มีโอกาสที่อัตรา ดอกเบี้ย นโยบายอาจจะไปถึงจุดสูงสุดที่ 6% จากความกังวลดังกล่าวจึงส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่า และกดดันให้ทองคำราคาอ่อนลง

อย่างไรก็ดี  ราคาทองคำในระยะกลางยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน หลังจากทองคำพุ่งแรงนับตั้งแต่ปลายปี 2565 จนถึงเดือน มี.ค.จนเข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป  เมื่อทิศทางเป็นเช่นนี้นักลงทุนจึงมีพฤติกรรมเทขายเมื่อเข้าใกล้แนวต้าน ทำให้ราคาทองคำผ่านแนวต้านสำคัญไปได้ยากยิ่งขึ้นจนกว่าจะมีปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามา

โดยมองแนวต้านแรกที่ 1,847-1,852 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หากไม่ผ่านแนวต้านนี้ทองคำอาจจะมีสัญญาณซึมตัวลง  ส่วนแนวรับมองที่ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แต่หากผ่าน 1,847-1,852 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ได้จะมีมุมมองเชิงลบลดลงต่อโดยมีต้านถัดไปที่ 1,880-1,870 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์

ขณะเดียวกันทองคำในประเทศไม่ได้เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับราคาทองคำในตลาดโลก เพราะได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ดังนั้นจังหวะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่านี้ ทำให้ทิศทางทองในประเทศนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ยังทรงตัวรักษาระดับไว้ได้เหนือ 29,500 บาทต่อบาททองคำ ไม่ได้ปรับตัวลดลงเช่นราคาทองคำในตลาดโลก

อีกทั้งยังมีโอกาสขยับขึ้น โดยมองแนวต้าน 30,500 –30,850  บาทต่อบาททองคำ แนวรับ 30,000-29,500 บาทต่อบาททองคำ อย่างไรก็ตามแนะนำแบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำในประเทศขยับขึ้น เพราะราคาทองคำต่างประเทศยังเป็นทิศทางปรับตัวลง หากค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า ราคาทองคำในประเทศก็จะกลับไปเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับราคาทองคำในตลาดโลกจึงแนะนำว่าให้ขายทำกำไรออกไปก่อน

ทั้งนี้การปรับตัวลงของราคาทองคำมองว่าเกิดขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น แต่ในระยะยาวจะยังเป็นขาขึ้น โดยจากข้อมูลของสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกา ( United States geological survey : USGS) พบว่าปริมาณการผลิตเหมืองทองคำทั่วโลกในปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 3,100 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีการผลิต 3,090 ตัน

โดยจะเห็นว่าปริมาณทองคำที่ผลิตได้เพิ่มขึ้นทุกปี แต่ก็ไม่ได้ฉุดให้ราคาทองคำปรับลดลงแต่อย่างใด ราคายังทรงตัวในระดับ เพราะเป็นสินค้าที่มีความต้องการทั้งจากภาคอุตสาหกรรม ภาคการเงินการลงทุน รวมถึงการสวมใส่เพื่อความสวยงาม

อย่างไรก็ตาม การลงทุนทองคำในช่วงที่ค่าเงินมีการเปลี่ยนแปลงสูงนั้น การลงทุนทองคำผ่านแอปพลิเคชัน YLG Gold Investment ถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนค่อนข้างสูง เพราะเป็นแอปพลิเคชันแรกของไทยที่จะยกระดับการลงทุนในทองคำที่สามารถซื้อขายทองคำได้ถึง 5 สกุลเงินหลัก

ประกอบด้วย ดอลลาร์สหรัฐ หยวน ดอลลาร์สิงคโปร์ ยูโร และเงินบาท เพื่อสร้างความหลากหลายเพราะเป็นการเพิ่มช่องทางทำกำไรในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพในภาวะที่ค่าเงินผันผวน และพิเศษในช่วงนี้ YLG ลดเงินวางประกันสำหรับเทรดทองคำบน แอปฯ YLG Gold investment จากการวางเงินประกัน 100,000 บาท เหลือ 50,000 บาท สนใจลงทุนคลิก https://www.ylggoldinvestment.com/

ใส่ความเห็น