NEWS

AIT โชว์งบปี 65 ทำรายได้ 6,727 ลบ. ปันผล 0.17 บ./หุ้น XD 20 เม.ย.

นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้นำในธุรกิจรับเหมาระบบสารสนเทศและการสื่อสารอย่างครบวงจร เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จำนวน 6,727 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้  7,035 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 542 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 527 ล้านบาท ถือเป็นการรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทยอยส่งมอบงานให้แก่ลูกค้าทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ ได้แก่ โครงการซื้อขายและติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ (ระยะที่ 2) ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, โครงการงานจ้างพัฒนาระบบติดตามขบวนรถไฟและจัดการงานขนส่งสินค้าของการรถไฟแห่งประเทศไทย, โครงการซื้อขายระบบสำหรับขยายบริการ GDCC (VM) ของ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ พร้อมรองรับความต้องการของลูกค้า ในการให้บริการออกแบบและรับเหมาวางระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ครอบคลุมด้านโทรคมนาคมและไอซีที เพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล ตามนโยบายภาครัฐในเรื่อง Thailand 4.0 ที่ขับเคลื่อนให้มีการลงทุนในเทคโนโลยี 5G มีการก่อสร้างระบบเครือข่ายและอุปกรณ์สื่อสารชนิดต่างๆ เพื่อรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.17 บาท (พาร์ 1 บาท) โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 20 เมษายน 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 นี้ ทั้งนี้ สิทธิในการรับเงินปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทในวันที่ 11 เมษายน 2566 อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท (สิบห้าสตางค์) ที่จ่ายเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 ส่งผลให้ในปี 2565 บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.32 บาท

ทั้งนี้ สำหรับผู้ถือหุ้นที่ต้องการใช้สิทธิวอแรนต์ AIT-W2 ครั้งที่ 2 บริษัทฯ ได้กำหนดวันใช้สิทธิวันที่ 31 มีนาคม 2566 นักลงทุนสามารถแสดงความจำนงระหว่างวันที่ 24-30 มีนาคม 2566 รายละเอียดเพิ่มเติมบนเว็บไซต์บริษัท ได้ที่ https://investor-th.ait.co.th/warrant_holders.html โดยบริษัทฯ จะขึ้นรายละเอียดบนเว็บไซต์ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป

ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AIT กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 2566 ถือเป็นการเริ่มต้นก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 4 The Next Decade” ของบริษัทฯ ด้วยการขับเคลื่อนธุรกิจในคอนเซปต์ DECADE’ คือ
D: Determined มีความมุ่งมั่น, E: Elaborated มีความละเอียดรอบคอบ, C: Connection มีเครือข่ายที่แข็งแรง,
A: Ambitious มีความทะเยอทะยานสู่ความสำเร็จ, D: Dare ความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทาย และ
E: Expansion มีการขยายงานอย่างต่อเนื่อง โดยการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ 7,000 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งมาจากมูลค่างานที่มีอยู่ในมือ (Backlog) ซึ่ง ข้อมูล ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 มีมูลค่างานในมือ (Backlog) จำนวน 6,700 ล้านบาท รวมถึงงานอยู่ระหว่างรอคำสั่งซื้อจากลูกค้า (Waiting for P/O) อีกจำนวน 150 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งมาจากแผนงานของทางฝ่ายขายที่ได้วางเป้าหมายตามแผนกลยุทธ์ที่กำหนดไว้

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นสิ่งสำคัญ 3 เรื่องหลัก ได้แก่  (1) ขยายพื้นที่การขายและเพิ่มฐานลูกค้า (การเน้นลูกค้า) เน้นขายที่มีลักษณะเพิ่มมูลค่าให้ลูกค้า เช่น ให้คำปรึกษาร่วมกับการขายสินค้า (Consultancy Selling) มากกว่าการมุ่งเน้นขายสินค้าในลักษณะซื้อมาขายไป (2) นำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มเติม (การเน้นประสิทธิภาพ) เพื่อเสริมการบริหารงานภายในให้สามารถทำงานได้อย่าง Fully Automation และ (3) การบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด (เน้นกำไร)

สำหรับความคืบหน้าลงทุนในธุรกิจซื้อขายคาร์บอนเครดิต รวมถึงการปลูกป่าสักเชิงเศรษฐกิจจำนวนประมาณ 1,000  ไร่ ซึ่งปัจจุบัน AIT ได้ดำเนินการในการหาที่ดินสำหรับปลูกป่าเรียบร้อยแล้ว โดยที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่ที่อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา โดยบริษัทฯ ได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับวิกฤตภาวะโลกร้อนที่เป็นผลมาจากก๊าซเรือนกระจก แม้ว่าการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทฯ จะไม่กระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อมมากนัก แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้น และต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม

ใส่ความเห็น