FUND

KTAM กระตุ้นลงทุนลดหย่อนภาษีโค้งสุดท้ายปี 2565 คัดสรรกองเด่น รองรับทุกสถานการณ์

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2565 เป็นอีกปีที่ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวนเป็นอย่างมาก แต่นักลงทุนที่ยังต้องลงทุนในกองทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีก็ยังคงต้องลงทุนอย่างมีวินัยอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้จึงได้แนะนำนักลงทุนที่ต้องการลงทุนเพื่อใช้ลดหย่อนภาษีในโค้งสุดท้ายของปี กับ 3 กลุ่มกองทุน ได้แก่ กลุ่มกองทุนตราสารหนี้ กลุ่มกองทุนหุ้นไทย และกลุ่มกองทุนหุ้นต่างประเทศ

สำหรับ กลุ่มกองทุนตราสารหนี้ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการพักเงินเพื่อรอจับจังหวะในการลงทุน หรือไม่ต้องการรับความเสี่ยงมากนัก พร้อมทั้งรองรับกับสถานการณ์ในช่วงดอกเบี้ยที่ทยอยปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต แนะนำ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF2) (กองทุนระดับความเสี่ยง 4) 

เน้นลงทุนในตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หุ้นกู้ และตราสารหนี้อื่น ๆ รวมทั้งเงินฝากโดยจะปรับสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้แต่ละประเภทข้างต้นให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา

ส่วนกองทุนชนิดเพื่อการออม แนะนำ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ พลัส (ชนิดเพื่อการออม) (KTFIXPLUS-SSF) (กองทุนระดับความเสี่ยง 4) เน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั้งใน และ/หรือต่างประเทศ โดยมีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 50 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  และกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

ส่วนกลุ่มกองทุนหุ้นไทย แนะนำ กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายปันผลดี ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-HiDiV RMF) (กองทุนระดับความเสี่ยง 6) 

เน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนใน SET ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีประวัติการจ่ายปันผลที่ดี สม่ำเสมอ และ/หรือมีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลในอนาคต  กองทุนชนิดเพื่อการออมแนะนำกองทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยที่มี ESG ที่ดี

ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี ชนิดเพื่อการออม (KT-ESGS-SSF) (กองทุนระดับความเสี่ยง 6) เน้นลงทุนในหุ้นไทยเป็นหลัก โดยจะใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรับ (ตามดัชนีผลตอบแทนรวม อีเอสจี ไทยพัฒน์ (Thaipat ESG Index (TR)) โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

กลุ่มกองทุนหุ้นต่างประเทศ แนะนำ กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-WEQRMF) (กองทุนระดับความเสี่ยง 6) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน AB Low Volatility Equity Portfolio Class I (USD) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV

โดยกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์ คือ ลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีปัจจัยพื้นฐาน มีความผันผวนตํ่า และมีความเสี่ยงในการปรับตัวลงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตในระดับที่ตํ่า กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลธ์แคร์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-HEALTHC RMF) (กองทุนระดับความเสี่ยง 7)

เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Janus Henderson Global Life Sciences Fund (Master Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (Retail Fund) เพียงกองเดียวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม

โดยเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทต่างๆ ทั่วโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต (Life Sciences) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรักษาหรือการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงบริการทางการแพทย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อสังคมผู้สูงวัยในอนาคต ทำให้ธีมการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้เหมาะสมกับการลงทุนในระยะยาวได้เป็นอย่างดี

กองทุนเปิดเคแทม Global Sustainable Growth Equity (ชนิดเพื่อการออม) (KT-GESG-SSF) (กองทุนระดับความเสี่ยง 6) เน้นลงทุนใน Schroder International Selection Fund Global Sustainable Growth (กองทุนหลัก) ซึ่งมีนโยบายบริหารแบบเชิงรุก (Active Management) โดยเน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีหลักธรรมาภิบาลที่ดี

และ กองทุนเปิดเคแทม ยูเอส โกรท อิควิตี้ ฟันด์ (ชนิดเพื่อการออม) (KT-US-SSF) (กองทุนระดับความเสี่ยง 6) กองทุนเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน AB AMERICAN Growth Portfolio (กองทุนหลักเพียงกองเดียว โดยกองทุนหลักจะเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทในสหรัฐฯ ที่มีขนาดใหญ่ มีแนวโน้มในการเติบโตดี มีคุณภาพสูง

นางชวินดา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกลุ่มกองทุนหุ้นต่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย จีน และเวียดนาม ก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนในระยะยาว ที่ไม่ได้เผชิญกับแรงกดดันทางด้านเงินเฟ้ออย่างรุนแรงเหมือนในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว จึงแนะนำ กองทุนเปิดเคแทม ไชน่า เอแชร์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-Ashares RMF) (กองทุนระดับความเสี่ยง 6) 

เน้นลงทุนในหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ (หุ้นจีน A-Shares) ผ่านการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Allianz Global Investors Fund – Allianz China A-Shares (กองทุนหลัก) ในส่วนของกองทุนชนิดเพื่อการออม แนะนำ กองทุนเปิดเคแทม เอเชีย โกรท อิควิตี้ ฟันด์ ชนิดเพื่อการออม (KT-ASIAG-SSF) (กองทุนระดับความเสี่ยง 6) เน้นลงทุนในบริษัทที่มีการเติบโตสูงและมีคุณภาพดี ทั่วภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมประเทศญี่ปุ่น) ผ่านกองทุน JPMorgan Funds – Asia Growth Fund (กองทุนหลัก)

นอกจากนี้ ยังคงมองว่าปัจจุบันเวียดนามเป็นเป้าหมายในการลงทุนที่สำคัญของนักลงทุนต่างชาติ และกำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นแหล่งการผลิตที่สำคัญของโลก จึงแนะนำ กองทุนเปิดเคแทม เวียดนาม อิควิตี้ ชนิดเพื่อการออม (KT-VIETNAM-SSF) (กองทุนระดับความเสี่ยง 6)

และ กองทุนเปิดเคแทม เวียดนาม อิควิตี้ ชนิดเพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-VIETNAM RMF) (กองทุนระดับความเสี่ยง 6) เน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียน และ/หรือบริษัทที่ดําเนินธุรกิจ หรือมีรายได้หลัก และ/หรือที่ได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจากประเทศเวียดนาม โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 หรือธนาคารกรุงไทยและผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (ถ้ามี) หรือศึกษารายละเอียดได้ที่ www.ktam.co.th สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ได้ที่ https://bit.ly/KTSTSignIn

ใส่ความเห็น