PROPERTY

“ออริจิ้น” กวาดยอดพรีเซลสนั่น! หนุนยอดขาย All Time High 

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” โชว์ผลงานยอดขาย เดือนแรกปี 2565 ทะลุ 29,398 ล้านบาท คิดเป็น 84% ของเป้าหมายทั้งปี หลัง Q3/2565 โกยยอดฉลุยกว่า 11,626 ล้านบาท ทำ New High พร้อมเตรียมปูพรม 13 โครงการใหม่ มั่นใจยอดขายทั้งปีจะสร้างสถิติ All Time High ที่ 35,000 ล้านบาทตามเป้า 

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ในช่วง เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.ก.ย.65) บริษัทมียอดขายจากโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมสะสมแล้วกว่29,398 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าราว 28% คิดเป็นราว 84% องเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 35,000 ล้านบาท

แบ่งเป็นยอดขายจากกลุ่มบ้านจัดสรร 27% และกลุ่มคอนโดมิเนียม 73% หากแบ่งตามสถานะโครงการ มีสัดส่วนยอดขายจากโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) 48% และกลุ่มโครงการที่เพิ่งเปิดขายหรืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (On Construction) 52%

ทั้งนี้ แบรนด์ที่ได้รับการตอบรับดีอย่างมากในช่วง เดือนแรก ได้แก่ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) แบรนด์คอนโดมิเนียมเจาะตลาดกลุ่มคนเพิ่งเริ่มต้นทำงาน (First Jobber) และกลุ่ม Gen Z และ บริกซ์ตัน (Brixton) แบรนด์คอนโดมิเนียมเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มในราคาเข้าถึงได้ (Affordable Niche) จากการผสานจุดขายโดนใจผู้บริโภค

อาทิ คอนเซ็ปต์ Pet Lover Condo ห้องแบบ Duo Space เพดานสูง 4.2 เมตร ส่งผลให้หลายโครงการภายใต้ แบรนด์ดังกล่าวที่เปิดขายเมื่อต้นปีนี้ มียอดขายสะสม (Take up rate) มากกว่า 80%

อีกทั้งยัง Sold out โครงการที่เพิ่งเปิดใหม่ในปี 2565 นี้ ไปถึง 2 โครงการภายในครึ่งปีแรก คือ โครงการโซ ออริจิ้น เกษตร (So Origin Kaset) และโครงการ บริกซ์ตัน แคมปัส บางแสน (Brixton Campus Bangsaen) สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความสำเร็จของออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ในฐานะเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมสำหรับคน Gen Y และ Gen Z และถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จเช่นเดียวกับแบรนด์ในระดับลักชัวรีอย่างพาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ

นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า ไตรมาส 4/2565 นี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะกลับเข้าสู่สถานะไฮซีซั่นที่ใกล้เคียงช่วงก่อน COVID-19 ที่สุดในรอบหลายปี ภาพรวมตลาดจะมีการแข่งขันเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนมากในช่วงดังกล่าว และมีการทำการตลาดกันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากกำลังซื้อฟื้นตัวขึ้นมาก ขณะที่ต้นทุนการพัฒนาโครงการยังไม่ปรับขึ้นมากนัก อีกทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะรถไฟฟ้าหลายสายมีความคืบหน้าไปมาก

“ในสภาวะที่ทุกบริษัทเปิดโครงการจำนวนมาก Key Success Factor หรือปัจจัยสู่ความสำเร็จของช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ จึงเป็นการเลือกบุกเซ็กเมนท์ ราคา และทำเลที่เหมาะสม ออริจิ้น ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยราคาจับต้องได้ ในทำเลแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ และแถบ EEC ที่มีความต้องการสูง แต่ยังมีคู่แข่งไม่มากนัก ขณะเดียวกัน ก็ทยอยเปิดโครงการในเซ็กเมนท์อื่นๆ ในทำเลศักยภาพสูงด้วย” นายพีระพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงไตรมาส 4/2565 อีกทั้งสิ้น 13 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 14,950 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม โครงการ มูลค่า 8,600 ล้านบาท และบ้านจัดสรร โครงการ มูลค่า 6,350 ล้านบาท เชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และสร้างยอดขายได้อย่างดีในช่วงโค้งสุดท้าย ส่งผลให้ยอดขายทั้งปีของบริษัททะลุ 35,000 ล้านบาท สร้างสถิติ All Time High อีกครั้งได้ตามเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ 

ใส่ความเห็น