นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2565 สำนักงาน กสทช. ได้เข้าร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรศัพท์หลอกลวงข่มขู่ให้ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ โดยคนร้ายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ โทรศัพท์มาแจ้งว่ามีใบสั่งค้างชำระค่าปรับจราจร แจ้งว่ามีของผิดกฎหมาย ฯลฯ ให้โอนเงินไปชำระ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปให้มิจฉาชีพ เมื่อทราบว่าถูกหลอกลวงจึงได้แจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com และร้องเรียนผ่านศูนย์รับเรื่องร้องเรียน AIS Spam Report Center โทร. 1185 ด้วย
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. ตรวจสอบแล้วพบว่ากรณีนี้มีความเชื่อมโยงกันกับอีกหลายคดี จึงน่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน และได้ประสานกับฝ่ายเทคนิคของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายใช้จนทราบตัวผู้กระทำความผิด และสถานที่ใช้กระทำความผิด จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นสถานที่ต่างๆ ตามหมายค้นจำนวน 8 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถจับกุมผู้ต้องหา และผู้ต้องสงสัยอีก 3 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นเครื่องส่งสัญญาณ IP PBX จำนวน 43 เครื่อง Wireless Router จำนวน 30 เครื่อง ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 รวมทั้งของกลางอื่น เช่น สมุดบัญชีธนาคาร โทรศัพท์มือถือ
“การจับกุมในครั้งนี้เป็นความร่วมมือในการทำงานร่วมกันแบบเชิงรุก ในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง และมีผลอย่างเป็นรูปธรรมของทั้งสำนักงาน กสทช. บช.สอท. และเอไอเอส เพื่อจัดการปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลดความเดือดร้อน สร้างความยุติธรรมให้กับประชาชน รวมถึงนำคนร้ายมาลงโทษ” นายไตรรัตน์กล่าว