MPJ โชว์ฟอร์ม 9 เดือน กวาดกำไรสุทธิโต 32.70% รุกขยายลานตู้ 2 โครงการ ส่งท้ายปี – เล็งจ่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ไตรมาส 2/69
บมจ.เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ (MPJ) โชว์ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2568 สะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจ กวาดกำไรสุทธิ 91.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.70% และมีรายได้จากการให้บริการรวม 809 ล้านบาท
รับอานิสงส์ 4 กลุ่มธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง สวนกระแสเศรษฐกิจโลก-สงครามการค้าที่ผันผวน ด้าน CEO “จีระศักดิ์ มานะตระกูล” ประกาศเดินหน้ารุกต่อยอดการลงทุน เร่งขยายลานตู้คอนเทนเนอร์
พร้อมเล็งเจาะตลาดเอเชียและตะวันออกกลาง ส่งซิกไตรมาส 2/69 จ่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ เฟส 2 จ.ระยอง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
นายจีระศักดิ์ มานะตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPJ ผู้นำโลจิสติกส์แบบครบวงจรและผู้นำด้านบริหารลานตู้คอนเทนเนอร์ เปิดเผยว่า
ในปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจโลก และสงครามทางการค้าที่มีความผันผวนสูง ถือเป็นแรงกดดันขนาดใหญ่ที่มีผลให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัว แต่ด้วยการบริหารจัดการและควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ 91.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.70% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
และมีรายได้จากการให้บริการรวม 809 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.60% ขณะเดียวกันงวดไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% และมีรายได้จากการให้บริการรวม 272.70 ล้านบาท ซึ่งอัตราการเติบโตดังกล่าวเกิดจากปัจจัยสนับสนุนใน 4 กลุ่มธุรกิจ
ธุรกิจให้บริการขนส่งทางบกต่อเนื่องกับท่าเรือ : งวด 9 เดือนแรก มีรายได้ 390.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.60% และงวดไตรมาส 3/2568 มีรายได้ 130.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.60%
เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ต่อเที่ยวจากการให้บริการ และการใช้รถ Outsource ให้บริการ ส่งผลให้มีความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น จากการบริหารจัดการหมุนเวียนรถให้สามารถเพิ่มการรับงานต่อเที่ยวได้สูงขึ้น
ธุรกิจให้บริการด้านการบริหารการจัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ : งวด 9 เดือนแรก มีรายได้ 257.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.20% และงวดไตรมาส 3/2568 มีรายได้ 86.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.40%
เนื่องจากการเติบโตในส่วนปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ที่เข้าและออกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรายได้หลักในการบริการ ด้านบริหารการจัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์มาจากรายได้ค่ายกตู้คอนเทนเนอร์ และรายได้ค่าซ่อมตู้คอนเทนเนอร์ รวมถึงมีการบริหารจัดการพื้นที่ลานตู้คอนเทนเนอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ธุรกิจให้บริการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ : งวด 9 เดือนแรก มีรายได้ 138.10 ล้านบาท และงวดไตรมาส 3/2568 มีรายได้ใน 48 ล้านบาท เนื่องจากการแข่งขันในธุรกิจที่ค่อนข้างสูงและภาวะเศรษฐกิจโลก
รวมทั้งสงครามทางการค้าที่มีความผันผวนสูง ทำให้บริษัทฯ วางแผนขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มเอเชียและตะวันออกกลางมากขึ้น รวมถึงการปรับแผนการตลาดเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ทันที
ธุรกิจให้บริการให้เช่าคลังสินค้า : งวด 9 เดือนแรก มีรายได้ 23.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.20% และ งวดไตรมาส 3/2568 มีรายได้ 7.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.3% เนื่องจากบริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้การให้บริการให้เช่าคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่ง โดยมีขนาดพื้นที่ประมาณ 12,463 ตารางเมตร ในจังหวัดระยอง ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567
สำหรับแผนการลงทุนในช่วงที่เหลือของปี 2568 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MPJ กล่าวทิ้งท้ายว่า บริษัทฯ ยังเดินหน้ากลยุทธ์ขยายการให้บริการใน 4 กลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ธุรกิจให้บริการขนส่งทางบกต่อเนื่องกับท่าเรือ
เนื่องจากล่าสุด บริษัทฯ มีการขยายพื้นที่ลานตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นใน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการขยายลานตู้คอนเทนเนอร์ที่แหลมฉบัง ซึ่งสามารถรองรับตู้คอนเทนเนอร์ได้ประมาณ 10,000 ตู้
และลานตู้คอนเทนเนอร์ที่ลาดกระบัง ที่สามารถรองรับตู้คอนเทนเนอร์ได้ประมาณ 12,000 ตู้ และจากแผนการขยายลานตู้ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตั้งเป้าธุรกิจบริหารการจัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ เติบโต 14% จากปีที่ผ่านมา
ขณะที่ธุรกิจให้บริการด้านการบริหารการจัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ บริษัทฯ มีแผนขยายเครือข่ายการขนส่งภายในประเทศ (Domestic Transportation) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงหาลูกค้าในอุตสาหกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
พร้อมวางเป้าหมายรายได้เติบโต 12% จากปีที่มาด้านธุรกิจให้บริการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ มีแผนขยายส่วนแบ่งตลาดในภูมิภาคใหม่ๆ โดยเน้นไปที่เอเชียและตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
ดังนั้นจึงเชื่อว่าในธุรกิจดังกล่าวจะมีรายได้ใกล้เคียงกับปี 2567 และธุรกิจให้บริการให้เช่าคลังสินค้า บริษัทฯ มีแผนการลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ เฟส 2 ที่จังหวัดระยอง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 2/2569 และเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ ไตรมาส 1/2570 เป็นต้นไป
ยักษ์ลงทุน http://www.yaklongtun.com

