NEWS

DHL Express รับรางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม สาขาโลจิสติกส์การค้า

DHL Express รับรางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม สาขาโลจิสติกส์การค้า สนับสนุนผู้ส่งออกไทยสู่ตลาดโลก

DHL Express (ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส) ประเทศไทย ผู้ให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ ภายใต้ DHL Group รับรางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise Award) สาขาโลจิสติกส์การค้า (Trade Logistics) จากการประกาศรางวัลเกียรติยศ PM’s Export Award โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์

ในฐานะผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่ประสบความสำเร็จในการให้บริการและโซลูชันด้านโลจิสติกส์ พัฒนาคุณภาพการดำเนินการเพื่อการส่งออกและนำเข้า และมีความเป็นเลิศรอบด้าน เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้ก้าวสู่การเติบโตในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน

“รางวัลนี้คือบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นของ DHL Express ในการมอบบริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศที่ดีที่สุดและพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้กับธุรกิจทุกขนาด เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในระบบนิเวศด้านโลจิสติกส์ และสามารถส่งสินค้าและบริการที่มีคุณภาพจากประเทศไทยไปแข่งขันในตลาดโลกได้”

คุณเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าว

การตัดสินรางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม สาขาโลจิสติกส์การค้า มีเกณฑ์ในการพิจารณาอย่างเข้มข้น โดยคำนึงถึงคุณสมบัติสำคัญรวม 6 หมวดหมู่ เช่น

แผนเชิงกลยุทธ์, การบริหารจัดการกระบวนการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ มีมาตรฐานและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง, การใช้ระบบสารสนเทศและเทคโนโลยีที่สนับสนุนกิจกรรมด้านโลจิสติกส์, การกำกับดูแลองค์กรด้านความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน, การให้ความสำคัญกับลูกค้า รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศดำเนินการมอบรางวัลดังกล่าวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2535 โดยในปีนี้ มีผู้ได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 42 รางวัล จาก 39 บริษัท แบ่งสาขารางวัลออกเป็น 7 ประเภท โดยการมอบรางวัลเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการส่งออกไทยให้สร้างบทบาทบนเวทีโลกและก้าวสู่ความเป็นผู้นำทางธุรกิจส่งออก

“ปัจจัยภายนอกต่างๆ ที่อยู่เหนือการควบคุม เช่น การเปลี่ยนแปลงมาตรการภาษี นโยบายการค้า ภูมิรัฐศาสตร์ และภัยพิบัติ อาจทำให้กระบวนการส่งออกและนำเข้าสินค้ามีความซับซ้อนมากขึ้น

แต่เรายังเห็นการค้าโลกเดินหน้าต่อเนื่องในทั่วทุกมุมโลก และเห็นการเติบโตของหลาย ๆ ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสำหรับธุรกิจไทย

อย่างไรก็ตาม เป็นหน้าที่ของ DHL Express ในฐานะโลจิสติกส์พาร์ทเนอร์ในการติดตามสถานการณ์เหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยลูกค้าปรับกลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์ และส่งออกไปยังตลาดเป้าหมายได้อย่างราบรื่น” คุณเฮอร์เบิต กล่าวเสริม

นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นปีนี้ DHL Express ประเทศไทยยังได้รับรางวัลการันตีคุณภาพด้านการให้บริการจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่

  • รางวัล Climate Action Leader ผู้นำในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ข้อที่ 13 การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) โดยรับรางวัล ณ องค์กรสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย จากสมาคมการตลาดเพื่อการเกษตรและอาหารแห่งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (AFMA) ภายใต้องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ร่วมกับ Sustainism เครือข่ายความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
  • การรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงสุด (FSR Class A) จากหน่วยงาน TAPA สำหรับศูนย์บริการดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส สาขาเทพารักษ์ รวมแล้วทำให้ดีเอชแอลมีสถานปฏิบัติงานที่ได้รับการรับรองนี้ทั้งสิ้น 11 แห่งซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในประเทศไทย
  • รางวัล Best Workflow Contact Center Award จากสมาคมการค้าธุรกิจศูนย์บริการทางโทรศัพท์ไทย (TCCTA)
  • การรับรองด้านสถานที่ทำงานที่ดีที่สุด (Great Place To Work) ตั้งแต่ปี 2561

DHL Express ก่อตั้งในประเทศไทยเมื่อปี 2516 ให้บริการขนส่งพัสดุหรือเอกสารด่วนระหว่างประเทศทางอากาศแบบ door-to-door (ให้บริการไปรับสินค้าและจัดส่งให้ถึงที่) สำหรับธุรกิจทุกขนาด

มีศูนย์กระจายสินค้ากรุงเทพฯ (Bangkok Hub) 1 แห่ง เป็นฮับระดับภูมิภาคสำหรับการส่งออกและนำเข้า เชื่อมต่อประเทศไทยสู่ทั่วโลก ด้วยเที่ยวบินขนส่งสินค้ารวมกว่า 85 เที่ยวบินในหนึ่งสัปดาห์ ศูนย์บริการ (Service Center) รวม 15 แห่ง และจุดบริการ (Service Point) มากกว่า 130 แห่งทั่วประเทศ และฝ่ายบริการลูกค้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ยักษ์ลงทุน http://www.yaklongtun.com

 

ใส่ความเห็น