NEWS

คปภ. ประชุมร่วม BDI ธุรกิจประกันภัย หารือข้อมูลสุขภาพผ่าน Health Link

คปภ. ประชุมร่วม BDI ธุรกิจประกันภัย หารือเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพผ่านเเพลตฟอร์ม Health Link

สำนักงาน คปภ. ประชุมร่วม สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) และผู้แทนภาคประกันภัย หารือแนวทางเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพผ่านแพลตฟอร์ม Health Link ยกระดับการพิจารณารับประกัน-เคลมสินไหม พร้อมเตรียมนัดพูดคุยเพิ่มเติมถึงประเด็นสิทธิการเข้าถึงข้อมูล-การจัดเก็บข้อมูล หวังให้สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมาย

นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานการประชุมร่วมกับสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เพื่อหารือแนวทางการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพผ่านแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของคนไทย (Health Link) ที่พัฒนาโดย BDI

โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย นายอาภากร ปานเลิศ รองเลขาธิการด้านกำกับธุรกิจประกันภัย นางมยุรินทร์ สุทธิรัตนพันธ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงาน คปภ.นายแพทย์ธนกฤต จินตวร ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา

และนักบริหารกิจการพิเศษ สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) แพทย์หญิงปฐมพร ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิด้านเวชกรรม นางสาวน้ำฝน ประโพธิ์ศรี ผู้อำนวยการโครงการ Health Link

รวมถึง คุณสาระ ล่ำซำ ประธานสภาธุรกิจประกันภัยไทย และผู้แทนจากสมาคมประกันชีวิตไทย ผู้แทนสมาคมประกันวินาศภัยไทย และผู้แทนบริษัทประกันภัย เข้าร่วมประชุมจำนวน 68 ราย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ณ สำนักงาน คปภ.

การประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือแนวทางการกำหนดมาตรฐานในการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัย การประเมินความเสี่ยง และการให้บริการที่ตอบโจทย์ประชาชนผู้เอาประกันภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับแพลตฟอร์ม Health Link เป็นแนวคิดของระบบเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ (Health Information Exchange: HIE) มีจุดเด่นคือการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพอย่างปลอดภัย โปร่งใส

และต้องผ่านการให้ ความยินยอมของคนไข้ (Consent-based) ซึ่งเป็นที่ยอมรับและมีการนำไปใช้จริงในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มหรือเครือข่ายโรงพยาบาลที่ใช้ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล (Hospital Information System : HIS) แบบเดียวกัน

แพลตฟอร์มนี้เป็นระบบแพลตฟอร์มกลางที่พัฒนาขึ้นเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของคนไข้ระหว่างสถานพยาบาลต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบัน Health Link เชื่อมโยงข้อมูลกับสถานพยาบาลไปแล้ว 2,305 แห่ง โดยหน่วยงานที่เชื่อมโยงส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลรัฐและคลินิก ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกและเกิดประโยชน์กับทั้งกับโรงพยาบาล แพทย์ และคนไข้ ดังนี้

1. ประโยชน์สำหรับโรงพยาบาลคือ การส่งข้อมูลการรักษาจากโรงพยาบาลต่าง ๆ เมื่อมีการเข้ารับการรักษาพยาบาล ข้อมูลการรักษาจะถูกจัดส่งเข้าสู่ระบบ Health Link ตามมาตรฐานกลาง (Health Link Data Standard) ที่กำหนดไว้

ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา และบริการ ติดตามอาการและการส่งระหว่างโรงพยาบาลในระดับประเทศ ลดความซ้ำซ้อนในการจ่ายยาและการรักษาอื่น ๆ ระหว่างโรงพยาบาล ทั้งนี้การเข้าถึงข้อมูลจะกระทำได้เฉพาะในกรณีที่คนไข้ได้ให้ความยินยอมไว้ล่วงหน้า

2. ประโยชน์สำหรับแพทย์คือ แพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพที่จำเป็นของคนไข้ และประวัติการรักษาจากต่างโรงพยาบาลได้อย่างครบถ้วน โดยช่วยประหยัดเวลาในการวินิจฉัยคนไข้ และสามารถตัดสินใจหรือวินิจฉัยอาการได้รวดเร็วและถูกต้องแม่นยำขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและช่วยชีวิตคนไข้ได้

ยักษ์ลงทุน http://www.yaklongtun.com

ใส่ความเห็น